ทำไม ผมดีใจที่ เบนนี่ ฮินน์ (Benny Hinn) มาประเทศไทย

Written by Karl Dahlfred on .

 

เขียน: Karl Dahlfred

แปล: เลิศ ทิสยากร

ผมดีใจที่ เบนนี่ ฮินน์ได้มาเมืองไทยเมื่อปี 2012 ผมพูดจริง ๆ ผมดีใจ เขาเป็นอาจารย์และผู้เผยพระวจนะเท็จที่คงจะได้จบชีวิตลงด้วยคำพิพากษาที่มีโม่หินพันธนาการรอบคอของเขา แต่ผมก็ดีใจที่เขามา เพราะเขาได้ทำให้คำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ประจักษ์ขึ้นในหมู่คริสตจักรไทย

คำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ได้เข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลาหลาย ๆ ปีแล้วก่อนที่ เบนนี่ ฮินน์ จะมาเยือนเมืองไทย แต่ก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรศิษยาภิบาลต่าง ๆ ทั้งที่มาจากต่างประเทศและคริสตจักรในประเทศเอง ได้จัดประกาศใหญ่โตมโหฬาร ให้คำมั่นสัญญาที่เกินความจริงไปมาก และมักจะให้ความหวังผิด ๆ โดยที่ขณะเดียวกันก็หลอกเอาทั้งเงินทองและ / หรือความหวังของสมาชิกไปหมดสิ้น บางคริสตจักรก็เลียนแบบและทำตามกัน และบางคริสตจักรก็ไม่ แต่คนไทยโดยทั่วไปก็มีนิสัยสุภาพอ่อนโยนและไม่ชอบที่จะสร้างปัญหา ชุมชนคริสเตียนในประเทศไทยมีขนาดเล็กต่างคนต่างก็รู้จักซึ่งกันและกัน และการผนึกกำลังกันไว้ให้เหนียวแน่น ก็ดูจะมีความสำคัญมากกว่าการมีปัญหากันท่ามกลางคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชาวพุทธ ดังนั้น ในขณะที่นักเทศน์ ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง และบรรดาอาจารย์ที่แต่งตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นศาสดาพยากรณ์ได้มาแล้วก็ไป ก็ไม่มีใครเคยออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับคำสอนเทียมเท็จเหล่านี้ แม้ว่าจะมีการทำกิจกรรมคริสตจักรที่เผยแพร่คำสอนเท็จออกไปอย่างกว้างขวางอย่างไม่หยุดไม่หย่อนก็ตาม จนได้เข้าไประบาดกันในคริสตจักรใหญ่ ๆ หลาย ๆ แห่งผ่านกิจกรรมการประกาศ "ฟื้นฟู" ขนาดใหญ่ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ หนังสือแปลต่าง ๆ และบนวิดีโอ YouTube

ทำไมจึงมีคนจำนวนมากเชื่อคำสอนเท็จนอกจากความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจการอ่านพระคัมภีร์อย่างจริงจังแล้ว ระบบการศึกษาในโรงเรียนไทยที่สอนให้นักเรียนเรียนเพื่อสอบให้ผ่านมากกว่าสอนให้คิดอย่างมีวิจารณญาณก็เป็นปัญหาด้วย สังคมไทยสอนคนให้รักษาความสงบ รักษาความสามัคคีอย่างผิวเผิน เป็นพลเมืองที่เชื่อฟัง และแกล้งทำเป็นว่าเราทุกคนเหมือนกันแม้ว่าความเป็นจริงจะไม่ใช่ก็ตาม ภายในวัฒนธรรมของคริสเตียนไทยด้วยกัน ผมได้สังเกตเห็นแนวโน้มที่คริสเตียนไทยจะยอมรับอะไรที่มีคำว่า "คริสเตียน" อย่างรวดเร็วโดยไม่ผ่านการตรึกตรองใด ๆ อะไรทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อได้เห็นนักเทศน์เทียมเท็จชาวตะวันตกเข้ามาในประเทศไทย และมีคริสเตียนคนอื่น ๆ ให้ความตื่นเต้นสนใจ ก็จะเข้าไปร่วมวงด้วยโดยไม่ต้องใช้สมองคิด และถ้าคริสเตียนไทยคนไหนไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับ เบนนี่ ฮินน์ ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะไปสงสัยในสิ่งที่คริสตชนอื่น ๆ เขาบอกกันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ยกเว้นคริสเตียนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ และมีความรู้ภาษา อังกฤษที่ดี คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยคิดที่จะ กูเกิล "เบนนี่ ฮินน์" และเรียนรู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือชั่วกันแน่ ถ้ามีใครสักคนจะบอกว่า “ฉันเชื่อในพระเยซูและพระคัมภีร์สอนว่า ..... " พวกเขาจะเชื่อคำสอนนั้นอย่างบริสุทธิ์ใจ ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคำพูดของนักเทศน์บนธรรมมาส

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ทางเดียวที่จะทำให้ผู้คนตระหนักถึงคำสอนเท็จเหล่านี้ ก็คือการชี้ให้เห็นถึงความเน่าเฟะของคำสอนและกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งขึ้น แน่นอน เราไม่ควรสร้างความขัดแย้งขึ้นเพียงเพื่อความสนุก หรือทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามีความ สำคัญ เราต้องตรวจสอบแรงจูงใจของเราเองในการชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาด แต่การมาของ เบนนี่ ฮินน์ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะลุกขึ้นและพูดว่า "คน ๆ นี้ไม่ได้พูดความจริงตามพระคัมภีร์ และคุณควรใช้ความระมัดระวังในการรับฟังสิ่งที่เขาพูด" มันเป็นเวลาแล้วที่จะต้องบอกให้คริสเตียนไทยได้ทราบกันว่า ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เป็นคำสอนของหมาป่าในชุดลูกแกะที่คริสเตียนไทยควรต้องปฏิเสธ

และนั่นคือสิ่งที่พวกเราบางคนได้ทำไป เพื่อนมิชชันนารีร่วมงานของผมและตัวผมเองได้เขียนรายงานเกี่ยวกับ เบนนี่ ฮินน์ ในคริสตจักรไทยรายละเอียดเบื้องหลัง คำสอนและคำกล่าวอ้างเรื่องปาฏิหาริย์ แล้วส่งเวียนออกไปเป็นการภายใน ๆ เวลานั้น นอกจากนั้นแล้ว เราทั้งสองคนและพี่น้องคริสเตียนไทยอีกสองคนได้ส่งจดหมายไปยังคริสตจักรโปรเตสแตนต์ทุกแห่งในประเทศไทย แจ้งให้ทราบถึงคำสอนเท็จ ชีวิต และคำกล่าวอ้างบางอย่างของ เบนนี่ ฮินน์ ที่พวกเขาควรจะต้องระมัดระวัง

และนั่นได้ทำให้คนบางคนไม่พอใจ แต่ก็ได้ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นมา มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติกับเบนนี่ ฮินน์ หรือและ "ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" ที่พวกเขากำลังพูดถึงนั้นเป็นอะไรกันแน่

ขั้นตอนแรกในการรักษาโรคคือการทำการวินิจฉัยโรคและเข้าใจสาเหตุที่มาของโรค การออกมาแจ้งเตือนเรื่อง เบนนี่ ฮินน์ (โดยเฉพาะ) เป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้คริสเตียนไทยได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของคำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง (โดยทั่วไป) เพื่อให้คริสเตียนไทยสามารถเห็นถึงคำสอนและการปฏิบัติอันเทียมเท็จของ ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

หลังการมาเยี่ยมเยียนของ เบนนี่ ฮินน์ กรรมการประสานงานคริสตจักรโปรเตสแตนท์แห่งประเทศไทย (กปท) ได้จัดตั้งคณะกรรมการศาสนศาสตร์ขึ้นมาทำการตรวจสอบและรายงานเกี่ยวกับคำสอนผิดปกติที่มีผลกระทบต่อคริสตจักรไทย คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำการวิจัยและเขียนคำแถงการณ์เรื่อง ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง และออกประกาศใช้อยู่ในเวลานี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง โรงเรียนคริสตศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ในประเทศไทย ได้จัดสัมมนาเปิดในหัวข้อ “ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง” ขึ้นที่กรุงเทพ และมีบทความเตือนภัยภาษาไทยเรื่องคำสอนเท็จ ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ต่าง ๆ ปรากฎบนออนไลน์มากขึ้น

"ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง" เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นท่ามกลางคริสตจักรต่าง ๆ ในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนให้ความสนใจว่าเป็นคำสอนความร่ำรวยและสุขภาพดีที่มีแต่ความเทียมเท็จน้อยมาก ซึ่งคริสเตียนดี ๆ ทั่วโลกเห็นพ้องกันว่าเป็นคำสอนวิปริต

ความขัดแย้งกันไม่เคยเป็นเรื่องที่สนุก และไม่ควรยอมให้มันเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ความขัดแย้งไม่ควรเป็นหัวใจหลัก และไม่ควรกินเวลาส่วนใหญ่ของเราในการแก้ไขปัญหา การสอนคำสอนที่ถูกต้องต่างหาก เป็นสิ่งที่ต้องทำกัน เราควรจะต้องเทศนาสั่งสอน ศึกษาพระคัมภีร์ ประชุมอธิษฐาน และพูดคุยในเชิงบวกเพื่อเสริมสร้างพี่น้องในคริสตจักรเป็นการส่วนตัวให้มากขึ้น คริสตจักรต้องได้รับการเสริมสร้างจิตวิญญาณจากพระคำอันอุดมสมบูรณ์ของพระคริสต์ที่เปิดเผยไว้ในพระคัมภีร์ให้เติบโตขึ้น

แต่บางครั้งก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นการให้การศึกษาไปด้วยในการออกมาชี้ให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิด และอธิบายให้ทราบกันว่ามันแตกต่างจากความถูกต้องอย่างไร ถ้าผู้เชื่อทุกคนจะรู้จักพระคัมภีร์ของตนเหมือนผู้ตรวจจับธนบัตรปลอมของกระทรวงการคลังโดยรู้ว่าเงินจริงมันเป็นอย่างไรละก้อ ก็คงไม่ต้องมีใครต้องออกมาตะแบงกันเสียงแหบเสียงแห้งว่า ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง สอนเท็จอย่างไร แต่จนกว่าเราจะมีคริสตจักรที่มีสมาชิกสามารถมองออกว่า คำสอนเท็จต่างจากคำสอนพระคัมภีร์อย่างไรจากที่ไกล เราก็ยังคงต้องมีการชี้ให้เห็นถึงว่า คำสอนเท็จว่าเป็นอย่างไรและทำการให้คำสอนที่ถูกต้องไปด้วยพร้อมกันไป

ตั้งแต่การมาประเทศไทยของ เบนนี่ ฮินน์ ในเดือนกันยายน 2012 คำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง ได้เริ่มที่จะมาปรากฎขึ้น บนจอเรดาร์ของคริสเตียนไทย และภัยอันตรายของคำสอนก็เริ่มที่จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำกัน แต่ผมคิดว่าเราได้มีการเริ่มต้นที่ดีแล้วในการที่ได้ช่วยให้คริสเตียนไทยได้ตระหนักว่า คำสอน ข่าวประเสริฐแห่งความเจริญรุ่งเรือง เป็นคำสอนเทียมเท็จ ที่จะทำร้ายพวกเขาและคริสตจักรของพวกเขาในระยะยาว

Submit to FacebookSubmit to TwitterSubmit to LinkedIn