การปฏิรูปคริสต์โปรเตสแตนต์สำคัญต่อคริสตจักรไทยอย่างไร How is the Protestant Reformation Relevant to the Church in Thailand?

เมื่อ 500 ปีที่แล้ว คริสตจักรโรมันคาธอลิกในยุโรปมีปัญหามากมาย   มีการซื้อขายตำแหน่งผู้นำคริสตจักร ผู้นำบางคนรับเงินเดือนจากคริสตจักรแต่กลับละเลยการปฏิบัติหน้าที่ บาทหลวงหลายคนมีเมียน้อย  พระสันตะปาปากุมอำนาจเหนือคริสตจักร  ทางคริสตจักรสนับสนุนการซื้อขายใบบุญไถ่บาปคือ สันตะปาปาขายการอภัยโทษบาป ถึงแม้จะช่วยนำรายได้เข้ามาสู่คริสตจักร  คำสอนและประเพณีของคริสตจักรได้รับการยกย่องเป็นธรรมเนียมเหนือคำสอนพระคริสต์และพระคัมภีร์

เมื่อบรรยากาศและการปฏิบัติโดยทั่วไปของคริสตจักรเป็นไปในลักษณะดังกล่าว มีหลายคนที่คิดหาหนทางปฏิรูปคริสตจักร ซึ่งรวมถึงนักบวชเยอร์มันคนหนึ่งชื่อ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) เขาหนักใจในความบาปของตัวเอง และเมื่อได้อ่านพระคัมภีร์ด้วยตนเอง ก็พบว่าพระเจ้าให้อภัยบาปอย่างฟรีๆ ไม่ต้องทำบุญบริจาคเงินทอง  เราก็จะรอดจากความบาปและความตายโดยพระคุณของพระคริสต์ ไม่ไช่ด้วยการทำบุญ  มาร์ติน ลูเธอร์ต้องการเห็นการปฏิรูปคริสตจักร จึงได้นำคำประท้วง 95 ข้อมาตอกผนึกที่ประตูโบสถ์วิทเทนเบริก (Wittenberg) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1517 เขามีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนมานั่งหารือกันโดยเฉพาะในหมู่ผู้นำคริสตจักรเพื่อให้แก้ไขคำสอนผิด และหากมีการปฏิบัติผิด ควรได้รับการพัฒนาปรับปรุง  การปิดคำประท้วง 95 ข้อของมาร์ติน ลูเธอร์ เป็นการจุดประกายให้นำไปสู่การปฏิรูปคริสตจักรทั่วยุโรปและทั่วโลกในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตามพี่น้องคริสเตียนบางคนอาจสงสัยว่าเรื่องการปฏิรูปคริสต์โปรเตสแตนต์เป็นเรื่องประวัติศาสตร์เฉยๆ  และไม่มีความสำคัญต่อคริสตจักรไทยในปัจจุบัน  คริสตจักรในยุโรปในยุคกลางไม่เหมือนคริสตจักรไทยในทุกวันนี้  ปัญหาที่พบบ่อยในยุคนั้นก็ไม่เหมือนที่มีอยู่ในยุคนี้ไช่ไหมครับ

พระเยซูรักษาคนให้หายจากโรคอย่างอัศจรรย์จริงหรือ??

miraculous healing screenshot1 600px
 

คลิปนี้น่าสนใจนะครับ  คุณชินวัตรน์ที่อยู่ในคลิปอ้างว่ารักษาทุกโรคได้โดยอำนาจพระเยซู และมีคนเป็นพยานว่าหายจริง  คนหูหนวก เดินไม่ได้ ตาบอด เป็นใบ้ โรคเบาหวาน ไต กระดูกพรุนฯลฯ วิธีรักษาคือ วางมือ สารภาพบาป สั่งผีหูหนวก ผีตาบอด ผีใบ้ ให้ออกมา แล้วคนก็หาย เป็นปกติ

นักข่าวไม่อยากเชื่อว่าเป็นจริง แต่ยังไม่ตัดสินว่าไม่มีจริง และยังสงสัยว่าการรักษาเป็นเล่นกลชักชวนคนให้เปลี่ยนศาสนาหรือไม่ ในกระทู้คอมแมนท์ YouTube คนก็เยาะเย้ยว่าถ้ามีจริง หมอไทยคงต้องปิดทำการเลย

เมื่อมีรายงานข่าวอย่างนี้  ชาวคริสต์ที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ข่าวนั้นควรจะตอบสนองอย่างไร? อย่างแรก เราก็ควรยืนยันว่าพระเยซูรักษาคนให้หายโรคได้จริง  ในพระคัมภีร์ก็มีตัวอย่างมากมาย ในพระธรรมมาระโก บทที่ 2 พระเยซูรักษาคนง่อย และในบทที่ 7 พระเยซูรักษาคนใบ้  แล้วในประวัติศาสตร์โลกก็มีคำพยานของหลายคนในแนวนี้เช่นกัน  แต่เรายังยอมรับว่าความทุกข์เป็นเรื่องปกติในโลกนี้ด้วย และพระเยซูไม่ได้รักษาทุกคนในปัจจุบันนี้  เพราะอะไร?  ทำไมพระเจ้าไม่รักษาคนให้หายทุกครั้ง เมื่อคนเราอธิษฐานทูลขอพระเจ้า?  เราเองก็ไม่รู้  เราสั่งพระเยซูให้ทำตามความปรารถนาของเราด้วยการเป่าคาถาหรือสวดมนต์อ้อนวอนไม่ได้  พระเจ้าสร้างเราและเป็นเจ้าของชีวิตของเรา  เราเป็นผู้ใดเล่าที่จะบังคับบัญชาให้พระเยซูทำตามใจเราของเรา?  พระเจ้าสร้างเราและเป็นเจ้าของชีวิตเรา  เราเป็นผู้ใดเล่าที่จะบังคับบัญชาให้พระเยซูทำตามใจเรา?  สมัยโบราญพระเจ้าสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และสร้างมนุษย์สองคนแรก เป็นชายกับหญิง สองคนนี้บริสุทธิ์แต่กลับไม่เชื่อฟังพระเจ้า ส่งผลให้ความทุกข์เข้ามา (พระธรรมปฐมกาล บทที่ 2-3)  ทั้งในโลกนี้และในใจมนุษย์  มนุษย์เราเป็นทุกข์ในปัจจุบันเพราะการกบฏของมนุษย์สองคนแรก ในยุคนี้เราทุกคนต้องทนทุกข์ ถ้าไม่มาก ก็น้อย  พระเจ้ากำลังรักษาโลกนี้ให้หายพ้นจากทุกข์แต่กระทำยังไม่เสร็จสมบูรณ์ พระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า สักวันหนึ่ง สรรพสิ่งในโลกนี้จะ “ได้รับการปลดปล่อยจากการผูกมัดให้ต้องเสื่อมสลาย และจะถูกนำเข้าสู่เสรีภาพอันรุ่งโรจน์ของบรรดาบุตรของพระเจ้า (พระธรรมโรม 8:21)

ตามพระคริสตธรรมพระคัมภีร์ มีสองวิธีที่คนสามารถหายจากโรคได้ คือทางการแพทย์  และทางการอัศจรรย์  วิธีปกติทั่วไปคือ ทางการแพทย์  พระเจ้าให้ความรู้ ความสามารถ กับมนุษย์เราที่จะค้นหาสาเหตุที่ทำให้คนป่วย และใช้วิธีการทางการแพทย์ เพื่อดำเนินการรักษา อย่างไรก็ตามบางครั้งพระเจ้าก็รักษาเราให้หายอย่างอัศจรรย์ได้  เราจะไม่รอคอยการรักษาแบบนี้แต่สามารถขอได้  จงไปหาหมอ และอธิษฐานขอพระเจ้าพระเยซูช่วยได้  ไม่ว่าเราจะได้รับการรักษาด้วยวิธีใด เราก็ขอบคุณพระเจ้า

แต่ยังมีต้นเหตุความเจ็บป่วยอย่างหนึ่งที่หมอไม่สามารถรักษาได้ก็คือผี  ในพระคัมภีร์พระเยซูได้รักษาหลายคนด้วยการขับไล่ผี ในปัจจุบันนี้ยังมีคนที่ถูกผีสิง และทำให้เจ็บป่วย  ถ้าต้นเหตุความทุกข์อยู่ที่ผี ไม่มีหมอแผนปัจจุบันคนใดที่จะรักษาได้  วิธีรักษาวิธีเดียวคือ การกลับใจเสียใหม่ หันกลับจากความผิดบาป และไว้วางใจในพระเยซูคริสต์เจ้า ผู้เป็นเจ้าของชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดพ้น  มีแต่พระเยซูเท่านั้นที่มีอำนาจสามารถขับไล่ผีและรักษาคนที่ถูกผีรบกวนได้

นี่แหละคือหลักการทางพระคัมภีร์ ขณะเดียวกันเรารู้ว่าในโลกนี้ มีทั้งการรักษาจริง และการรักษาปลอม  บางคนใช้จิตวิทยาเพื่อชักจูงคนให้เชื่อว่าเขาได้รับการรักษา และคนๆ นั้นอาจเชื่อว่าได้รับการรักษาจริง สภาพร่างกายอาจดีขึ้นชั่วคราว  แต่วันรุ่งขึ้นเขาก็เป็นเหมือนเดิม  มนุษย์เราต้องใช้วิจารณญาณในการฟังคำอ้างของคนรักษาโรค  มีผู้นำทางศาสนาบางคนที่รักษาโรคหรือทำการอัศจรรย์แบบปลอมเพื่อดึงดูดคนมานับถือพวกเขา  ทุกศาสนามีคนคล้ายๆ กันแบบนี้ 

แต่แม้ว่าการรักษาโรคปลอมมีอยู่  การรักษาโรคจริงก็มีด้วยเช่นเดียวกัน  คนที่ได้รับการรักษา เราไม่ใช่ศรัทธาในบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ยังศรัทธาในพระเยซูคริสต์เจ้า คือพระผู้สร้างมนุษย์เราทุกคน และมีสิทธิอำนาจสามารถช่วยเราได้

 

ตะลึงวงการแพทย์! ใช้พลังพระเยซูรักษาหูหนวก - พิการ | ลุยชนข่าว | 12 มิ.ย. 67 
 

 

การปกป้องความจริงเกี่ยวกับคริสต์มาส (Defending the Truth of Christmas)

เทศกาลคริสต์มาสเป็นที่ชื่นชอบของคริสตชนทั่วไป และในเดือนธันวาคมของทุกปี คนที่รักพระเจ้าทั่วโลกเฉลิมฉลองการเสด็จมาและบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซู ผู้เป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า และเป็นพระเจ้าแท้ที่เท่าเทียมกับพระบิดาเจ้า

อาเรียสสอนผิดเรื่องพระเยซู

อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 318 มีผู้นำคริสตจักรคนหนึ่งที่ท้าทายความจริงเกี่ยวกับคริสต์มาส นั่นคือ อาเรียส (Arius) ผู้อาวุโสแห่งเมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) อาเรียสสอนว่า แม้พระเยซูคริสต์จะทรงเป็นอยู่ก่อนทุกสิ่งและทรงมีส่วนในการเนรมิตสร้างทุกสิ่ง แต่พระองค์ก็ยังเป็นผู้ที่ถูกสร้างขึ้น จึงมิได้ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์แต่มีจุดเริ่มต้น  ดังนั้น เขาอ้างว่าพระคริสต์ผู้เป็นพระบุตรมีสถานะด้อยกว่าพระบิดาเจ้า โดยยอมรับว่าพระเยซูเป็นมนุษย์ แต่ปฏิเสธว่าพระบิดาและพระบุตรมีสถานะเท่าเทียมกันและเป็นสาระเดียวกัน  คำสอนเทียมเท็จนี้แพร่ไปทั่วจักรวรรดิโรมัน และมีหลายคนเชื่อตามคำสอนผิดของอาเรียส รวมทั้งโอรสและทายาทของคอนสแตนตินผู้เป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิโรมัน

Late medieval Greek Orthodox icon showing Saint Nicholas of Myra slapping Arius at the First Council of Nicaea.ภาพวาดยุกกลาง นักบุญนิโคลัสตีหน้าอาเรียส ณ ประชุมสภาเมืองไนเซีย

ชาวคริสต์ควรทำอย่างไรเมื่อโรคระบาด ~ มุมมองของ มาร์ติน ลูเธอร์

เมื่อ ค.ศ. 1527 นักปฏิรูปโปรเตสแตนต์ มาร์ติน ลูเธอร์  เขียนบันทึกนี้   ขณะที่เขาเผชิญหน้ากับโรคระบาด “กาฬมรณะ” ที่เมืองวิตเตนเบิร์ก ประเทศเยอรมัน
"ข้าพเจ้าจะทูลขอพระเจ้าให้เมตตาปกป้องเรา จากนั้นข้าพเจ้าจะรมยา ช่วยทำให้อากาศสะอาด จัดหายาให้ผู้อื่น และรับประทานยาเอง ข้าพเจ้าจะหลีกเลี่ยงสถานที่และบุคคลที่ไม่ต้องการตัวของข้าพเจ้า เพื่อไม่ให้ตัวเองติดเชื้อ และมีโอกาสทำให้คนอื่นต้องติดเชื้อและทำให้พวกเขาต้องเสียชีวิตเพราะความประมาทเลินเล่อของข้าพเจ้า หากพระเจ้าปรารถนาที่จะรับข้าพเจ้าไป พระองค์จะพบตัวข้าพเจ้าอย่างแน่นอน และข้าพเจ้าได้ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเองสมควรทำแล้ว ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อความตายของตัวข้าพเจ้าเองหรือของผู้อื่น อย่างไรก็ตาม หากเพื่อนบ้านต้องการข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หลีกเลี่ยงสถานที่หรือบุคคล แต่จะไปอย่างอิสระตามที่ระบุไว้ข้างต้น นี่เป็นความเชื่อวางใจที่ยำเกรงพระเจ้า เพราะความเชื่อเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความหุนหันพลันแล่นหรือความบ้าบิ่นและการทดสอบพระเจ้า”
luther preaching sqaure

ความเหมือน และความแตกต่างระหว่าง นิกายโปรเตสแตนท์และนิกายโรมันคาธอลิก

หลายคนรู้ว่านิกายโรมันคาธอลิกและนิกายโปรเตสแตนท์เป็นของศาสนาคริสต์ แต่ยังไม่รู้ว่าทั้งสองนิกายนี้แต่กต่างกันอย่างไร  ทั้งสองกลุ่มมีความเชื่อตาม หลักข้อเชื่อของอัครทูต และ หลักข้อเชื่อไนซีน แต่ยังมีหลายข้อที่ไม่เหมือนกัน

ข้างล่างนี่ท่านจะพบการสรุปสั้นๆ เรื่องความแตกต่างระหว่างนิกายโรมันคาธอลิกและนิกายโปรเตสแตนท์   

 

 

หลักความเชื่อ

คาธอลิก

โปรเตสแตนท์

1

สิทธิสูงสุดในการปกครองของคริสตจักร

สังฆธิปไตย (การปกครองตามลำดับลงมา) - สันตะปาปาเป็นประมุข

1) สังฆธิปไตย (แบบแองกลิคัน)
2) คณะผู้ปกครองที่ระดับภาค (แบบสภาฯ)
3) คณะผู้นำของคริสตจักรท้องถิ่น (แบบแบบติสต์)

2

สิทธิอำนาจสูงสุดในการกำหนดหลักความเชื่อ

ประเพณีและคำสอนของศาสนจักร

พระคริสตธรรมคัมภีร์

3

ความรอด

โดยพระคุณด้วยมีการกระทำเป็นตัวช่วย

โดยพระคุณพระเจ้าเท่านั้น

4

คนกลางระหว่างเรากับพระเจ้า

พระเยซูคริสต พระแม่มารี เหล่านักบุญ และบาทหลวงประจำโบสถ์

พระเยซูคริสต์เท่านั้น

5

หลังความตาย

คนเชื่อพระคริสต์ไปแดนชำระรับโทษบาป แล้วขึ้นสวรรค์เมื่อถูกชำระแล้ว
คนไม่เชื่อพระคริสตอาจตกนรก หรือ อาจรอด (คำสอนของคาธอลิกยื่นยันทั้งสองอย่าง)

คนเชื่อพระคริสตขึ้นสวรรค์
คนไม่เชื่อถูกพิพากษาลงโทษนิรันดร์

6

พิธีมหาสนิด

ขนมปังและน้ำองุ่นเปลี่ยนแปลงเป็นพระกายและพระโลหิตแท้ของพระเยซูคริสต์  พีธีเป็นการถวายบูชา

ขนมปังและน้ำองุ่นเป็นสัญญาลักษณ์ช่วยผู้เชื่อให้ระลึกถึงพระเยซูคริสต์

7

ผู้นำคริสตจักร

บาทหลวง  ห้ามแต่งงาน

ศิยาภิบาล ผู้ปกครอง และ/หรือทีมผู้นำ
แต่งงานได้

8

รูปปั้น  ภาพศิลปะ

รูปปั้น และภาพศิลปะเป็นตัวช่วยผู้เชื่อนมัสการพระเจ้า

รูปปั้นมีน้อย ไม่มีบทบาทในการนมัสการ
ภาพศิลปะใช้ในการสอนเด็ก หรือเอาไว้เพื่อความสวยงามเท่นนั้น

Image by Free-Photos from Pixabay

ท่านใดที่สนใจรู้เพิ่มเติมสามารถ

 

Donation Address

OMF International
10 W. Dry Creek Circle
Littleton, CO 80120

With your check, please include a note indicating support for "Karl & Sun Dahlfred"
You may also give online.